เดอะ แรบบิท โฮม – The Rabbit Home
ที่อยู่ : 1/1 หมู่ที่ 1 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก 26000 เบอร์โทรศัพท์ : 091-7972989, 037-349689 Facebook : The Rabbit Home
Read moreที่อยู่ : 1/1 หมู่ที่ 1 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก 26000 เบอร์โทรศัพท์ : 091-7972989, 037-349689 Facebook : The Rabbit Home
Read moreร้านอาหารไทยเรือนลอมฟาง จ.นครนายก อาหารไทยฝีมือฉบับคุณยาย ชิมเมนูอาหารไทยสูตรเด็ดฉบับคุณยาย กับร้านเก่าแก่กว่า 30 ปี บรรยากาศธรรมชาติน่านั่ง ที่ร้าน ‘เรือนลอมฟาง’ จังหวัดนครนายก เมนูเด็ดของร้าน “ปูหลนสูตรคุณยาย” สูตรเด็ดมายาวนานกว่า30 ปี อาหารไทยของที่ร้าน ไม่ใส่ผงชูรสทุกเมนู มั่นใจในสุขภาพและรสชาติดีแบบพิถีพิถัน อิ่มแล้วอย่าลืมไปเดินย่อยที่สวนหลังร้าน บรรยากาศดีร่มรื่น สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้พวกเรา Wongnai จะพามาแนะนำร้านอาหารในจังหวัดนครนายกกัน ‘ร้านเรือนลอมฟาง’ ร้านนี้เปิดบริการมากว่า 30 ปีแล้ว อยู่ติดริมถนนหาไม่ยากเลยที่จอดรถสะดวกสบายสุด ๆ “บรรยากาศหน้าร้านเรือนลอมฟาง” เลี้ยวรถเข้าไปในร้านก็พบกับความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า บรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ ลมพัดเย็นสบายดีเหมือนอยู่บ้านสวนเลย อากาศดี๊ดีค่ะ “บรรยากาศภายในร้านเรือนลอมฟาง” ร้านตกแต่งสบาย ๆ เพดานสูง อากาศถ่ายเทสะดวก มีบริการทั้งห้องแอร์รับรอง 12 – 15 คน ห้องจัดเลี้ยงติดแอร์ 40 คน และแบบโอเพ่นแอร์อีกนั่งสบาย ๆ “บรรยากาศภายในร้านเรือนลอมฟาง” MENU ต้องบอกว่าที่นี่เป็นอาหารไทยแท้ รสชาติกลมกล่อมไม่ใช้ผงชูรสด้วยนะ ไปดูเมนูกันเลยรสชาติหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้างกับเมนูแนะนำตามไปเลยจ้า “เมนูแนะนำของร้านเรือนลอมฟาง” เมนูแรก “ปีกไก่ยัดไส้ทอด” ชิ้นละ 40 บาท เมนูเด็ดที่ใครมาก็ต้องสั่ง แนะนำอย่างแรงไม่สั่งถือว่าพลาดเป็นเมนูดั้งเดิมสูตรพิเศษ ไม่มีกระดูกเพราะเชฟเค้าเลาะออกหมดเพื่อยัดไส้วุ้นเส้น หมู ไก่สับปรุงรส ทอดสุกจนได้สีเหลืองทอง รสชาติกลมกล่อม เมนูขึ้นชื่อแถมได้รับรางวัลเมนูเด็ดประจำจังหวัดสองปีซ้อน กินง่ายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย และน้ำจิ้มไก่ กินไม่จิ้มก็ยังรสชาติดีขอบอก “ปูหลน” 100 บาท ปูหลนเมนูเด็ดสูตรคุณยายกว่า 30 ปี เมนูดั้งเดิมพิเศษปูนาเค็มล้างสะอาดและต้มสุกก่อนนำมาปรุงอาหาร หลนปูไม่เค็มมากไม่มีกลิ่นปู แต่จะได้รสชาติของน้ำปู ปรุงรสออกหวานนึดนึงใส่หมูสับ เสิร์ฟคู่กับผักสดอย่างไหลบัวอ่อนสีสวย ดอกอันชัญสดฉ่ำ ผักกาดกรอบกรุบ แตงกวา ผักบุ้ง ถั่วพลู และขมิ้นอ่อน รสชาติกลมกล่อมสูตรโบราณจริง ๆ กินแล้วนึกถึงรสชาติอาหารของคุณยายเคยทำให้กินสมัยเด็ก ๆ เลย “ปูหลน” เมนูปลากันบ้างกับเมนู “ลาบปลาช่อน” 280 – 300 บาท ลาบปลาช่อนใช้ปลาช่อนนาทั้งตัวทอดกรอบนอกนุ่มใน ทั้งสด ทั้งเนื้อขาวฟู ราดด้วยน้ำลาบใส่ผักชีฝรั่ง หอมแดง ข้าวคั่ว สูตรเฉพาะทางร้าน รสชาติแซ่บจัดจ้านเข้มข้นกินกับข้าวสวยร้อน ๆ เด็ดมากและที่สำคัญใช้ปลาช่อนนาแท้ทำให้ไม้มีกลิ่นดินในตัวปลาเลย ดีมาก ๆ ค่ะ “ลาบปลาช่อน” “ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน” 160 บาท นำกะทิผัดกับพริกแกงแดง ใส่กุ้ง ปลาหมึก เนื้อปลาลงไปผัดใส่โหระพา ใส่มะพร้าวอ่อนและไข่ไก่ผัดให้งวด และตักใส่ลูกมะพร้าวที่เตรียมไว้ นำไปนึ้งให้ได้ที่ เครื่องแกงแดงที่ร้านตำเองจะได้รสชาติหอมเครื่องเทศ รสชาติกลมกล่อมแบบละมุน ๆ หอมมะพร้าวกินกับข้าวสวยร้อน ๆ รับรองแจ่มมาก “ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน” 200 บาท กุ้งสดตัวโต ๆ ต้มกับเครื่องต้มยำปรุงรสชาติแซ่บจัดจ้านกำลังดี พร้อมใส่มะพร้าวอ่อน ทำให้มีรสชาติหอมหวานของมะพร้าวผสมผสานเข้าด้วยกัน หอมละมุนกลิ่นมะพร้าวด้วยค่ะ “แกงคั่วหอยขม” 120 บาท หอยขมแกะเป็นชิ้นนำไปแกงกับกะทิและเครื่อแกงหอมกรุ่นใส่ใบชะพลูและชะอมเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาวของหอยรสชาติกลมกล่อมเป็นเมนูขายดีอีกหนึ่งเมนูที่ต้องแนะนำเลยค่ะ “แกงคั่วหอยขม” ปิดท้ายด้วย “ปลาช่อนนึ่งแจ่ว” 280-300 บาท อย่างที่บอกที่ร้านใช้ปลาช่อนนาแท้ที่มีเนื้อแน่นและนุ่มฟูสีขาว นำไปนึ่งทำให้ดูน่ากินมาก ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำพริกหนุ่มภาคกลาง มีมะเขือยาวเผา และพริกเผาปรุงรสแซ่บจัดจ้าน และน้ำจิ้มแจ่ว มาพร้อมกับผักต้มนานาชนิด “ปลาช่อนนึ่งแจ่ว” “บรรยากาศด้านหลังร้านเรือนลอมฟาง” อิ่มแล้วมาเดินเล่นหลังร้านพี่เจ้าของร้านเค้าสะสมต้นเฟิร์นหลากหลายพันธุ์สวย ๆ ทั้งนั้นเลย มีน้ำตกจำลองเป็นธรรมชาติมาก ๆ อิ่มกายสบายใจสุด ๆ ผ่านมาทางนี้ก็ต้องหิ้วท้องมากินข้าวที่นี่อีกแน่นอนค่ะ รักเลย ร้านเรือนลอมฟาง เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. หยุดทุกวันที่ 7,17 ของทุกเดือน หากตรงกับวัน เสาร์, อาทิตย์ ไม่หยุด จะหยุดวันถัดไป ส่วนวันนักขัตฤกษ์ เปิดบริการค่ะ FB: ร้านอาหารเรือนลอมฟาง สอบถามเพิ่มเติมโทร. 037-381-397, 063-268-8845 การเดินทาง ถนนสุวรรณศร อำเภอบ้านนา จ.นครนายก (เลยแยกตลาด อ.บ้านนาไปทางหินกองประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ริมถนนซ้ายมือ)
Read moreใครมาเที่ยวนครนายกแล้วกำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ แถมรสชาติเยี่ยม แนะนำให้พุ่งตัวมาที่ร้านนี้เลยค่ะ ร้าน “Fourbuta Cafe” บอกเลยว่าร้านนี้ไม่ธรรมดา เพราะเค้ามีคอนเซปต์ “ตามรอยเท้าพ่อ” ที่ผสมผสานระหว่างร้านอาหาร และการทำเกษตรพอเพียงไว้ในที่เดียวกัน คุณไม่เพียงแต่จะได้กินอาหารดี ๆ แล้วยังได้สัมผัสกับความร่มรื่นของทุ่งนาผ่านการปั่นจักรยานพร้อมทั้งเรียนรู้วิธีการทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง อิ่มท้องแถมยังอิ่มใจแบบนี้ ปักหมุดตามมาด่วน ๆ ตั้งอยู่ที่ ถนน รังสิต – นครนายก (ร้านติดถนนรังสิต-นครนายก มุ่งหน้าไปองครักษ์เลยบะหมี่โหน่งประมาณ3กิโลเมตร) บ้านนา , บ้านนา , นครนายก เบอร์ติดต่อ 0847074747 เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 08:30 – 18:30 ประเภท ร้านกาแฟ/ชา , เบเกอรี/เค้ก
Read moreล่องเรือเหนือเขื่อนล่องเรือเหนือเขื่อน ในห้วงเวลาของความโศกเศร้าของคนไทย มาพร้อมกับการตามรอยที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ ตลอดจนโครงการของพระองค์ นอกจากจะมีขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่แล้ว ยังกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ไปในคราวเดียวกันอีกด้วย เหมือนเช่นที่นี่ …. จ.นครนายก เขื่อนขุนด่านปราการชล ถือเป็นเขื่อนใหญ่สุดของเขาใหญ่ฝั่งนครนายก เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก รวมเขื่อนหลักและเขื่อนรองยาว 2,593 เมตร ความสูงของเขื่อน (สูงสุด) 93 เมตร รับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำมีความจุ 224 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างเสร็จ และเริ่มกักเก็บน้ำในปี 2548 และได้รับพระราชทานชื่อว่า เขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งมาจากชื่อของ “ขุนหาญพิทักษ์ไพรวัน” หรือ “ขุนด่าน” วีรชนของนครนายก ผู้ปกป้องชาวไทยจากการรุกรานของกองทัพเขมร สมัยกรุงศรีอยุธยา การเดินทางไปเขื่อนขุนด่านฯ ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกนางรอง แต่จะมีทางแยกซ้ายมือไปเขื่อน ก่อนถึงน้ำตกนางรอง 2 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกหน่อย ถึงวงเวียนเล็กๆ มีแยกซ้ายมือขึ้นชมสันเขื่อน ลานจอดรถอยู่ก่อนถึงตัวเขื่อน มีการจัดการเป็นที่ทางมากขึ้น ไม่ให้ไปจอดใกล้สันเขื่อนเหมือนแต่ก่อน ถึงกระนั้น คนไปเที่ยวสันเขื่อนก็เยอะกว่าแต่ก่อนมาก จนบางครั้งถึงขั้นรถติดตั้งแต่โค้งเขา ก่อนถึงลานจอดรถเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงวันหยุด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินชมสันเขื่อน มองเห็นวิวไปได้ไกล ฝั่งหนึ่งเป็นเมืองนครนายก อีกฝั่งเป็นเวิ้งน้ำกับขุนเขาใหญ่ ที่สลับซับซ้อน เมื่อก่อนเคยไปยืนมองดู พร้อมกับคิดไปว่า ในซอกหลืบของทิวเขาเหนือเวิ้งน้ำกว้างใหญ่นั่น จะมีอะไรบ้าง วันนี้ รู้แล้วว่า มีน้ำตกสวยๆ อยู่ 2-3 ตัวให้เข้าไปเล่นน้ำได้ คือ น้ำตกผางามงอน, น้ำตกคลองคราม และน้ำตกช่องลม เลยพาคุณผู้อ่านล่องเรือไปดูพร้อมๆ กันเลย มีบริการเรือหางยาว จอดเรียงเป็นแถวเป็นแนวอยู่ด้านใน จุดตั้งโต๊ะติดต่อเช่าเรือ จัดไว้มุมหนึ่งติดกับลานจอดรถ มีการกำหนดค่าบริการชัดเจน จากจุดลงเรือสันเขื่อน ใช้เวลาล่องไปถึงน้ำตกผางามงอน ซึ่งเป็นตัวไกลสุด ราวๆ 7 กม. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เรียกว่า เพลินไปกับเงาไม้ในสายน้ำและเกาะแก่งกันยาวๆ ไป โชคดีช่วงนี้น้ำในเขื่อนเยอะ ซึ่งยี่ยอกว่า ต้องล่องเรือมาฝั่งขวาก่อน ก็เข้ามาน้ำตกตัวในก่อน แล้วค่อยเลาะออกฝั่งซ้ายก็จะแวะเที่ยวน้ำตกอีก 2 ตัว น้ำในเขื่อนปีนี้เก็บได้เยอะกว่าปีก่อนๆ ดูแล้วอีกราวเมตรเศษๆ ก็จะถึงขีดสุดของบานประตูระบายน้ำแล้ว พอน้ำเยอะแบบนี้ การเข้าไปเที่ยวน้ำตก จึงไม่ต้องเดินไกลมาก “น้ำตกเหวนรกจะต้องล่องเรือลึกเข้าไปอีกประมาณ 4 กม. แล้วต้องเดินเท้าอีกราวๆ 2 กม. เพราะน้ำไปไม่ถึง เรือเข้าไปไม่ได้ ส่วนน้ำตกต้นน้ำเรือเข้าไปไม่ได้ เพราะมีท่อนไม้ใหญ่เกะกะขวางทาง” ยี่ไขข้อข้องใจเมื่อเราถามถึงชั้นล่างของเหวนรก น้ำตกผางามงอน ที่อยู่สูงหน่อย จากเดิมที่อาจจะใช้เวลาเดินพอสมควร คราวนี้เลยเดินแค่ราวๆ 40 เมตรก็ถึงแล้ว น้ำตกตัวนี้ มีเป็นชั้นๆ เท่าที่เห็น ก็ 2-3 วัน โดยชั้นบนสุดทิ้งดิ่งเป็นเส้นตรงลงมาจากเขา ก่อนจะซอกซอนไปตามก้อนหิน ลงมาทิ้งตัวเล็กๆ ชั้นล่าง ใครไปเที่ยวผางามงอน ค่อยๆ ดู ค่อยๆ มอง อาจจะได้เห็นดอกลิ้นมังกรสีส้มโอลด์โรส อยู่ข้างก้อนหินใหญ่ด้วยนะ ออกจากผางามงอน เลาะกลับมาตามฝั่งซ้าย มีแยกของเกาะ เข้าไปอีกพอสมควร ถึงได้เห็น น้ำตกคลองคราม คราวนี้ไม่ต้องเหนื่อยเดินเลย เพราะน้ำตกมาอยู่ตรงหน้าเรานี่เอง ด้วยเพราะน้ำในเขื่อนสูง เรือจอดเทียบแนวก้อนหินหน้าน้ำตก แค่ลงเรือ ก็เล่นน้ำได้แล้ว เหมือนเป็นแอ่งหน้าน้ำตก แต่ค่อนข้างลึก เพราะตัวน้ำตกอยู่ติดน้ำเขื่อนเลยทีเดียว พอๆ กับ น้ำตกช่องลม ที่อยู่ถัดขึ้นมาทางเขื่อนอีกร่องเขา น้ำตกตัวนี้ค่อนข้างแรง และไม่อยู่ในทะเลลงเล่นน้ำได้ เลยได้แต่ปีนไปถ่ายรูปเล่นก็พอ และที่ชอบใจน้ำตกตัวนี้ก็เพราะร่องน้ำที่เข้าไปหน้าน้ำตก เป็นเวิ้งน้ำที่ดูสวยสงบ ขนาดว่า นอนอ่านหนังสือในเรือจอดไว้เฉยๆ ก็ยังได้ แค่แป๊บๆ ใช้เวลาหมดไป 3 ชั่วโมงอย่างรวดเร็ว แบบไม่รู้ตัว เพลินอยู่เหนือเขื่อนที่นอกจากระบายทุกข์คนนครนายกแล้ว ยังช่วยให้ผู้มาเยือนเพลิดเพลินใจไปอีกด้วย
Read moreท่องเที่ยวผจญภัยเบาๆ ขับรถ ATV เที่ยวสวนผลไม้ เก็บผลไม้กินฟรี ตามฤดูกาล ชมสวนกวาง กว่า 50 ตัว ในเส้นทางธรรมชาติ ร่มรื่น เป็นส่วนตัว ปลอดภัย บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ และกิจกรรม บีบีกัน เพ้นท์บอล ล่องแก่ง ปีนหน้าผา ขี่จักรยาน นั่งเรือชมเขื่อน ฯลฯ มานครนายกที่เดียวเที่ยวคุ้ม ช่วงนี้กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬาและผจญภัย กำลังมาแรง การขับรถ ATV เป็นกิจกรรมที่ทำได้ทั้งครอบครัว ทุกเพศทุกวัย ไม่อันตราย เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล หากขับไม่ไหว ก็สามารถนั่งซ้อนท้ายเที่ยวตะลุยสวนได้ เส้นทางขับรถ ATV จะอยู่ภายในสวนผลไม้ บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ สามารถเก็บผลไม้กินระหว่างทางได้ ฟรี!! มีทั้งหมด 3 เส้นทาง แบ่งตามระยะทางและความยากง่ายของเส้นทางที่ขับ เส้นทางสมบุกสมบัน บางช่วง ต้องขับรถ ATV ตัดผ่านลำธาร น้ำกระจาย สร้างความสนุกสนานชุ่มฉ่ำ และเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ หรือบางช่วงต้องขับข้ามสะพานไม้ไผ่เล็กๆ ท้าทายความกล้า โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ข้ามไปได้อย่างปลอดภัย สร้างความตื่นเต้นเล็กๆ ขับลุยสวนตามกันเป็นแถวๆ ตามเส้นทางที่กำหนด โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ใช้เวลาในการขับรถ ATV รอบเล็ก ประมาณ 45 นาที สนุกกำลังดี ไม่เหนื่อยมาก
Read moreตามรอยโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก หลายครั้งที่ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดที่มีการจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการหลวงต่างๆ แต่กลับไม่เคยรู้รายละเอียดของโครงการนั้นๆ เลย ว่าได้ให้ประโยชน์กับชาวบ้านในพื้นที่นั้นอย่างไร ไปเป็นเพียงนักท่องเที่ยวเปล่าๆ คนหนึ่ง แต่แล้วแวบหนึ่งที่ทำให้เราเลือกที่จะกลับไปยังที่ที่เราเคยไป แต่ไปในฐานะนักท่องเที่ยว ผู้ที่ต้องการรู้เรื่องราวทั้งหมดในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การเดินทางตามรอยพระราชาจึงเกิดขึ้น จากที่เคยไปเที่ยวที่น้ำตกนางรอง และแวะเขื่อนขุนด่านปราการชล เพื่อชมพระอาทิตย์ตกลงไปในเขื่อน ความสนุกและความสวยงามระหว่างสิ่งปลูกสร้างกับธรรมชาติคิดว่าคงเพียงพอ ซึ่งในขณะนั้นเราเห็นป้ายบอกทางไปศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ ก็คิดว่าคงไม่มีอะไร แต่พอได้ลองค้นหาที่มาที่ไปของศูนย์ฯ แห่งนี้ ว่าเป็นโครงการพระราชดำริเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการใช้ชีวิตพอเพียงให้เหมาะสมกับภูมิภาคที่ตัวเองอยู่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ภาคให้เราได้เรียนรู้ถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ ระบบการใช้น้ำ ระบบป่าเปียก การปลูกพืชสมุนไพรต่างๆ และแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยใช้หลักธรรมชาติ รวมทั้งการสร้างบ้านดินทำ การทำไบโอดีเซล และอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจ ท้ายสุดฉันก็ต้องกลับมาที่ จ.นครนายกอีกครั้ง และตั้งต้นการเดินทางตามรอยพระราชากันที่ศูนย์ฯ แห่งนี้เป็นแห่งแรก ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก การมาเที่ยวชมศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่ว่ามากันเป็นหมู่คณะ และต้องการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางศูนย์ฯ ได้จัดขึ้น ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นเลิศ ที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวของคำว่า “พอเพียง” และการใช้ทรัพยากรอย่างไรให้ได้ประโยชน์และรู้คุณค่ามากที่สุด การเดินเที่ยวชมที่แห่งนี้ เดินชมได้เป็นลักษณะคล้ายวงกลม โดยเริ่มจาก โซนภาคเหนือ ตื่นตาไปกับการปลูกไม้ไผ่ชนิดต่างๆ สองข้างทาง รวมทั้งความน่ารักของสะพานไม้ไผ่ บ้านที่สร้างจากไม้ไผ่ริมสระบัว และเครื่องเล่นที่ทำจากไม้ไผ่ ที่จัดแสดงแบบนี้ เป็นเพราะต้องการให้ได้รู้ว่าไม้ไผ่สามารถทำประโยชน์อะไรได้มากมาย รวมทั้งทำรางหยดน้ำ เพื่อใช้รดน้ำต้นไม้และรดดินแทนคนอีกด้วย เดินขึ้นไปตามภูเขาก้อนเล็กๆ เรียนรู้เรื่องภูเขาป่า การตะบันน้ำ คือ การที่ใช้น้ำอัดน้ำขึ้นที่สูงแทนการใช้เครื่องปั๊มน้ำ ระบบป่าเปียกกันไฟ ประโยชน์ของหญ้าแฝก และการทำฝายชะลอความชุ่มชื้น เดินต่อไปยัง โซนภาคกลาง เรียนรู้เรื่องการเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของตัวเองอย่างคุ้มค่า เรียนรู้การสร้างบ้านดิน และเรื่องสมุนไพรนานาชนิด แล้วก็เดินไปยัง โซนภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ชมธนาคารข้าว เรียนรู้เรื่องการสีข้าว การเลี้ยงปศุสัตว์ แอบเห็นวัวตัวเบ่อเริ่มอยู่ในคอกด้วย การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง จะได้ไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมี และได้เรียนรู้เรื่องการห่มดิน จากที่พื้นที่ที่ไม่มีดิน ต้องใช้วิธีห่มดิน เพื่อให้ได้ดินดีๆ กลับมาปลูกพืชผัก แต่จะทำอย่างไร อยากให้ไปเรียนรู้ด้วยตัวเองจะดีที่สุด สุดท้ายไปยัง โซนภาคใต้ ไปดูการเผาถ่านที่ทำจากไม้ไผ่ การทำน้ำมันไบโอดีเซล และเรียนรู้โครงการแก้มลิง นอกจากนี้ตลอดภายในศูนย์ฯ ฉันเห็นว่าจะมีร่องน้ำขนาดใหญ่และเล็กตลอดเส้นทาง มีสระน้ำ มีแปลงเกษตรปลูกพืชผัก มีกังหันน้ำชัยพัฒนา มีการปลูกหญ้าแฝกในน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย จบการเดินเที่ยวชม ที่รับสาระความรู้และความเพลิดเพลินเดินอย่างไม่รู้เหนื่อยกันไป เดินชม ตาดู หูฟังและปากถามเจ้าหน้าที่ไม่ลดละ เพียงเพราะว่าสิ่งที่เราคิดว่า ‘เรารู้’ กลายเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน นั่นเป็นเพราะความเคยชินกับโครงการต่างๆ หรือทฤษฎีต่างๆ แต่ไม่เคยปฏิบัติหรือมาสัมผัสจริง ขอขอบคุณคุณปัญญา ปุลิเวคินทร์ หัวหน้าศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติคุณปรีชา หงอกสิมมา เจ้าหน้าที่โครงการศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ การเดินทาง : จากแยกรังสิต ไปทาง อ.องครักษ์ มุ่งหน้าไปใช้เส้นนครนายก-น้ำตกนางรอง ผ่านวังตะไคร้ ก่อนถึงน้ำตกนางรอง 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงวงเวียน (มีรูปปั้นช้าง) วนขวาข้ามสะพาน ถึงสี่แยกเลี้ยวขวาตรงไปอีก 200 เมตร ศูนย์ฯ จะอยู่ทางซ้ายมือ ติดต่อเจ้าหน้าที่ : คุณอันธิกา สมโมสร โทร. 0 3738 4049, www.bhumirak.com เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ / ภาพ : กฤตภาส สุทธิกิตติบุตร
Read moreนครนายกเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่ เงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยและท่องเที่ยวพักผ่อน เป็นเมืองในฝันใกล้กรุงซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม มาเยือนนครนายกทั้งที ก็ต้องไปให้ครบ ที่เที่ยวนครนายก – 10 ที่เที่ยวนครนายก มาเที่ยวทั้งทีต้องไปให้ครบ 1. วังตะไคร้ นครนายก ข้อมูล : วังตะไคร้หรือจุมภฏ – พันธุ์ทิพย์อุทยาน เป็นแหล่งที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 120 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัดนครนายก ประมาณ 16 กิโลเมตร มวลพฤกษชาติ พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ ภายในอุทยานแห่งนี้จะออกดอกสะพรั่งตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงิน ทำให้เกิดทัศนียภาพงดงามทุกฤดูกาลโดยเฉพาะในฤดูฝน นอกจากนั้น ยังมีพันธุ์ไม้ นานาชนิด อุทยานวังตะไคร้ จึงเป็นดินแดนที่มีเสน่ห์แห่งความงามตามธรรมชาติ ที่ตั้ง : 222 หมู่ 1 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก 26000 โทรศัพท์ : 037-385-164-5, 081-989-0365 เวลาเปิด-ปิด : 8.00-18.00 น. การเดินทาง : ใช้เส้นทางรังสิต-นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305) เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกสามสาว หลังจากนั้นตรงตลอดจนถึงตัวเมืองนครนายก สังเกตุป้ายน้ำตกสาริกา น้ำตกนางรอง เขื่อนขุนด่านปราการชลให้ไปตามเส้นทางนั้น (ถนนหมายเลข 3049)ผ่านโรงพยาบาลนครนายก วัดหลวงพ่อปากแดง เมื่อถึงไฟจราจรที่แยกสาริกา (หากตรงจะไปน้ำตกสาริกา) ให้เลี้ยวขวาและขับต่อไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ทางเข้าวังตะไคร์จะอยู่ทางซ้าย ถึงก่อนน้ำตกนางรอง 2 กิโลเมตร หากวิ่งข้ามสะพานไปอีกเล็กน้อย จะพบทางเข้าเขื่อนขุนด่านปราการชลทางขวามือ อุทยานวังตะไคร้ เป็นอุทยานที่ได้รับการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ ประดับนานาพันธุ์ ในเนื้อที่ 1,500 ไร่มีถนนให้รถยนต์วิ่งเข้าชมใน บริเวณได้ เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งประเภท เช้าไปเย็นกลับ และประเภทค้างแรม 2. เขื่อนขุนด่านปราการชล นครนายก ข้อมูล : เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความสูง (สูงสุด) 93 เมตร รับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำ มีความจุ 224 ล้าน ลบ.ม. โดยทำให้มีน้ำในการทำเกษตรกรรม การอุปโภคบริโภค เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และบรรเทาอุทกภัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ของนครนายก นักท่องเที่ยวสามารถชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จากบริเวณสันเขื่อน จะเห็นทิวทัศน์ด้านหน้าเขื่อน และชมทิวทัศน์เมืองนครนายกด้านหลังเขื่อน ในอนาคตมีโครงการจะสร้างแก่งเทียมเพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา และเป็นสนามสลาลอมนานาชาติ ซึ่งจะเป็นแห่งเดียวในภูมิภาคนี้ หากก่อสร้างแก่งเทียมแล้วเสร็จ จะสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดนครนายกเพิ่มขึ้น ที่ตั้ง : บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน การเดินทาง : ใช้ถนนสายรังสิต-นครนายก(ทางหลวงหมายเลข 305) หรืออาจใช้ถนนเส้นเก่าคือถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข 33) ซึ่งจะอ้อมกว่า จนถึงตัวเมืองนครนายกให้ใช้เส้นทางเดียวกับไปน้ำตกนางรอง (ทางหลวงหมายเลข 3049) ผ่านอุทยานวังตะไคร้และเลี้ยวขวาเข้าถนนสู่ตัวเขื่อน เขื่อนขุนด่านปราการชลเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมวิวเหนือสันเขื่อน สามารถมองเห็นตัวเมืองนครนายกและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ที่สันเขื่อน นอกจากนี้ยังสามารถเช่าเรือหางยาวเพื่อชมน้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนได้ 3. อุทยานพระพิฆเนศ นครนายก ข้อมูล : อุทยานพระพิฆเนศ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพิฆเนศปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในโลก! โดยมีหน้าตักกว้าง 9 เมตรสูง 15 เมตร และได้รับการยกย่องจากเลขาธิการศาสนสัมพันธ์ฮินดูโลกว่าเป็นพระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่พบมา และมีมติว่าให้ผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูมาร่วมกันจัดงานเทศกาลคเณศจตุรถี หรือวันเกิดพระพิฆเนศที่นี่ทุกๆ ปี เมื่อมีผู้ศรัทธาหลั่งไหลมาสักการะจำนวนมาก ทางอุทยานจึงสร้างศาลาหอประชุมจัดเป็นสถานที่แสดงพิพิธภัณฑ์องค์พระพิฆเนศ 108 ปาง เป็นอาคารทรงไทยที่ใช้ประดิษฐานพระพิฆเนศปางต่างๆ มีหลายแบบหลายขนาดแต่ละแบบแต่ปางมีความสวยที่แตกต่างกันไป แต่ละองค์ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันทั้งหมด ที่ตั้ง : หมู่ 11 ถนนนครนายก-น้ำตกสาริกา ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก 26000 เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน การเดินทาง : ใช้ถนนนครนายก-น้ำตกสาริกา ตรงไปใกล้วัดหลวงพ่อปากแดง ทางอุทยานจัดสถานที่ให้สำหรับกราบไหว้บูชาได้ด้วยเข้ามาในนี้แล้วได้กราบ ไหว้องค์พระพิฆเนศประจำวันเกิดของตนเอง และยังเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีหอมหาเทพ ซึ่งประดิษฐานมหาเทพสูงสุดทั้ง 3 พระองค์คือ พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ 4. วัดพราหมณี (หลวงพ่อปากแดง) นครนายก ข้อมูล : วัดพราหมณี (หลวงพ่อปากแดง) มีอายุกว่า 100 ปี และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นพระประธานในพระอุโบสถ มีชื่อว่า หลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ เนื้อสัมฤทธิ์ และเป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง มีจีวรลายดอกพิกุล พระโอษฐ์เป็นสีแดง พระพุทธรูปองค์นี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดนครนายกตลอดมา ที่ตั้ง :
Read moreพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ สวนพุทธชยันตี 2600 ปี ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับทางขึ้นน้ำตกสาลิกา บนพื้นที่ 53 ไร่ แวดล้อมด้วยภูเขา มีสายน้ำไหลผ่านเมื่อเข้าไปในสถานที่แห่งนี้เราจะได้เห็นพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ขนาดใหญ่เด่นเป็นสง่าหน้าตัก 9 เมตร สูง 13.5 เมตร เป็นตัวแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบมีการสร้างพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 90 ซม. อีก 1,250 องค์ เป็นตัวแทน พุทธสาวกแสดงถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อครั้งพุทธกาล กล่าวคือ เป็น วันจาตุรงคสันนิบาต หรือวันประชุมใหญ่อันประกอบด้วยองค์ 4 คือ 1.พระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นพุทธสาวกจำนวน 1,250 องค์ มาชุมนุมพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย 2.พระพุทธสาวกเหล่านี้ล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ เป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงประทานการอุปสมบทด้วยพระองค์เอง 3.พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์ 4.วันนั้นเป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะ คือพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ ในวันดังกล่าวพระผู้มีพระภาคได้ทรงประกาศหลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาเหมือนรัฐธรรมนูญที่ใช้เป็นแม่บทสำคัญสูงสุดของประเทศ ที่นี่จึงเหมือนเป็นตำราเรียนประวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนาเล่มใหญ่สำหรับผู้สนใจ นักเรียน นักศึกษา ได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่เกิดขึ้น จริงเมื่อครั้งพุทธกาลที่ไม่มีประเทศใดสร้างมาก่อน ณ วันนี้ต้นไม้รอบบริเวณดังกล่าวกำลังเติบโตให้ความร่มเงา มีสายน้ำจากน้ำตกสาริกา ไหลรินผ่านมาให้ความร่มเย็น มีภูเขายิ่งใหญ่มั่งคงล้อมรอบ จึงได้มีการสร้างศาลาปฏิบัติธรรม 1 หลัง ข้างในจะมีพระพุทธรูป ของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน และในอนาคตจะสร้างศาลาปฏิบัติธรรมเพิ่ม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถใช้เป็น สถานที่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ สามารถเดินทางมาสักการะหรือเวียนเทียนที่พุทธอุทยานมาฆบูชาฯ ได้ทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.08-1906 6974, 08-8400-9001-8 การเดินทางไปพุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์โดยรถยนต์ส่วนตัว พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ ตั้งอยู่ที่ ถนนหมายเลข 3050 เส้นทางไปน้ำตกสาริกา โดยผู้ที่มาสักการะองค์พระพิฆเนศองค์ใหญ่ ก็สามารถขับรถไปเที่ยวต่อยังที่นี่ได้ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวยังน้ำตกสาริกา
Read moreถนน รังสิต-นครนายก นครนายก (ริมถนนรังสิต-นครนายก เลยปั๊ม pt 100 เมตร อยู่ระหว่าง คลอง14-คลอง 15) ต.คลองใหญ่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ข้อมูลแนะนำ ประเภทอาหาร• ก๋วยเตี๋ยว• ร้านกาแฟ/ชา จำนวนที่นั่ง• 41 – 80 ที่นั่งช่วงราคา• ต่ำกว่า 100 บาทที่จอดรถ• มีรับจองล่วงหน้า• ไม่มี เวลาทำการวันอาทิตย์: 08:30 – 19:00วันจันทร์: 08:30 – 18:00วันอังคาร: 08:30 – 18:00วันพุธ: 08:30 – 18:00วันพฤหัสบดี: 08:30 – 18:00วันศุกร์: 08:30 – 18:00วันเสาร์: 08:30 – 19:00หมายเหตุเวลาทำการ : – การเดินทาง• รถยนต์ ข้อมูลการติดต่อที่อยู่ถนน รังสิต-นครนายก นครนายก (ริมถนนรังสิต-นครนายก เลยปั๊ม pt 100 เมตร อยู่ระหว่าง คลอง14-คลอง 15) ต.คลองใหญ่ อ.องครักษ์ จ.นครนายกเบอร์ติดต่อ087-561-9888Facebookhttps://www.facebook.com/pg/coffeebreak.klong14 แผนที่
Read moreTazza di Caffe’ สุวรรณศร นครนายก (ตรงข้ามวีรพัฒน์) ต.วังกระโจม อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ข้อมูลแนะนำ ประเภทอาหาร• ร้านกาแฟ/ชา จำนวนที่นั่ง• 11 – 40 ที่นั่งช่วงราคา• ต่ำกว่า 100 บาทที่จอดรถ• มีรับจองล่วงหน้า• ไม่มี เวลาทำการวันอาทิตย์: 08:00 – 17:30วันอังคาร: 08:00 – 17:30วันพุธ: 08:00 – 17:30วันพฤหัสบดี: 08:00 – 17:30วันศุกร์: 08:00 – 17:30วันเสาร์: 08:00 – 17:30หมายเหตุเวลาทำการ : – การเดินทาง• รถยนต์ ข้อมูลการติดต่อที่อยู่สุวรรณศร นครนายก (ตรงข้ามวีรพัฒน์) ต.วังกระโจม อ.เมืองนครนายก จ.นครนายกเบอร์ติดต่อ087-677-3165Facebookhttps://www.facebook.com/pg/Tazza-di-Caffe-196466233879271 แผนที่
Read more